วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

อินเทอร์เน็ตกับประเทศไทย




ผู้ที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการสื่อสารโทรคมนาคมคงต้องมองเห็นได้ชัดเจนว่า อินเทอร์เน็ตจะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญยิ่งในชีวิตประจำวัน อินเทอร์เน็ตเป็นเสมือนฐานรองรับกิจการต่าง ๆ เป็นทาง (ด่วน) ของข้อมูลข่าวสารที่มีบทบาทและความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ เป็นหนทางของการแข่งขันกับต่างประเทศ เราสามารถสร้างคุณค่าบนเครือข่ายนี้ได้อย่างมากมายมหาศาล
หน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องอินเทอร์เน็ตของประเทศชาติที่จะหลีกความรับผิดชอบไปไม่ได้คือ กระทรวงคมนาคม ซึ่งมีหน่วยงานปฏิบัติที่สำคัญอยู่ในกระทรวง จากอดีตที่ผ่านมาเราก็เห็นได้ชัดว่า อินเทอร์เน็ตของประเทศไทยก้าวไปในลักษณะอย่างไร ขาดผู้ชี้นำหรือผู้นำทางที่ดำเนินการอย่างไรเป็นรูปธรรมการวางโครงข่ายทั่วประเทศ และโลคัลสวิตชิง
NECTEC ได้เริ่มทำโลคัลสวิตชิงที่ชื่อว่า PIE ต่อมาการสื่อสารก็ได้ดำเนินการสร้างโลคัลสวิตชิง ซึ่งก็นับว่าดีที่มีสวิตชิงแล้วขณะนี้สองแห่ง แต่ทั้งสองแห่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ดังนั้นหากผู้ใช้จากต่างจังหวัดจะต้องการเชื่อมโยงกันก็ต้องมาสวิตชิงที่ใดที่หนึ่งในสองที่นี้
หากพิจารณาในเรื่องโครงข่ายโทรคมนาคมที่องค์การโทรศัพท์มีศูนย์อยู่ 20 แห่ง ทำไมไม่ให้องค์การโทรศัพท์เป็นผู้เชื่อมโยงอินเทอร์เน็ตของประเทศ ทุก ISP สามารถให้บริการได้ทุกจังหวัด ผู้ใช้ที่จังหวัดใดก็จะมีบริการได้โดยโทรศัพท์ครังละ 3 บาท ขณะเดียวกันทั้ง 20 แห่งนี้ เป็นโลคัลสวิตชิงที่เป็นหลักสำหรับการดำเนินการนั้นหมายความว่า ถ้า ISP สอง ISP ให้บริการในเชียงใหม่ คงไม่ต้องมาสวิตช์ข้อมูลกันที่การสื่อสารหรือ PIE ที่กรุงเทพฯ การดำเนินการในลักษณะนี้จะทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของประเทศสูงขึ้น ลดปัญหาความคับคั่งของระบบอินเทอร์เน็ตที่เป็นอยู่ในขณะนี้ลงไปได้ และที่สำคัญคือ การให้โอกาสที่เท่าเทียมกันระหว่างคนต่างจังหวัดกับคนในกรุงเทพฯการวางพร็อกซี แคชรวม และระบบมิลเลอร์ของต่างประเทศ
ระบบแคชที่ดีของประเทศน่าจะเป็นทางออกของการลงทุนร่วมกัน และสร้างระบบแคชที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะการสื่อสารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแลทางออกของประเทศ สามารถดำเนินการในเรื่องนี้ได้ นอกจากระบบแคชแล้วยังสามารถทำระบบมิลเลอร์ของบางไซท์ไว้ในประเทศ ระบบถังข้อมูล FTP ขนาดใหญ่ที่สามารถให้บริการข้อมูลต่าง ๆ ได้
การบริหารจัดการระบบบัฟเฟอร์ข้อมูลนี้จะช่วยทำให้ทราบสถานะการใช้งานบางอย่างหรือปริมาณความต้องการต่าง ๆ ของผู้ใช้ในประเทศได้ ทำให้สร้างระบบวางแผนและดำเนินการในระดับนโยบายต่อไปได้ดีระบบฟรีอีเมล์ และฟรีโฮมเพจ
เคยมีใครวิเคราะห์หรือเฝ้าติดตามดูว่า ปริมาณผู้ใช้ฟรีอีเมล์ภายนอกประเทศ และฟรีโฮมเพจภายนอกประเทศมีจำนวนสักเท่าไร ผู้ที่ใช้ฟรีอีเมล์ก็ดี ฟรีโฮมเพจก็ดี ใช้เพราะภายในประเทศไม่มีระบบบริการที่ดี ลองนึกดูว่าผู้ใช้บริการเหล่านี้ต้องการส่งอีเมล์ถึงบุคคลในประเทศ จะต้องเสียช่องทางการสื่อสารระหว่างประเทศไปเท่าไร เริ่มจากคนส่งต้องนำข้อมูลไปไว้คนรับก็ต้องไปอ่าน ดังนั้นจึงเท่ากับว่าเราเสียช่องสื่อสารไปหลายเท่าตัว ช่องทางสื่อสารที่ไปต่างประเทศมักมีราคาแพง (8 เมกะบิต ประมาณ 60 ล้านบาทต่อปี) หากเรามีบริการในประเทศ เราจะประหยัดได้มาก
การบริการฟรีเหล่านี้ได้ผลคุ้มค่ายิ่ง โดยเฉพาะการดึงคนไทยให้ใช้งานในประเทศไทย ลดค่าใช้จ่ายที่จ่ายทางอ้อมให้ต่างประเทศ ขณะเดียวกันระบบดังกล่าวน่าจะทำประโยชน์ได้เช่นเดียวกันกับต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการได้รายชื่อผู้ใช้ในเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือเรื่องของการดึงมาเป็นสมาชิก รวมถึงการให้ข่าวสารกับสมาชิกการให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี แต่...
...ต้องเป็นบริการภายในประเทศไทย หากนโยบายการส่งเสริมอินเทอร์เน็ตมีความชัดเจน น่าจะต้องให้คนไทยทั่วประเทศไทย ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์ฟรี หากหน่วยงานบริการโทรศัพท์ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี โดยคิดเฉพาะค่าโทรศัพท์ โดยเน้นให้ใช้เฉพาะในประเทศ การใช้อินเทอร์เน็ตในลักษณะนี้ไม่ต้องเสียวงจรไปต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายโดยรวมจึงถูกลง
การบริการอินเทอร์เน็ตฟรีจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์ อาจหารายได้มาชดเชยได้หลายอย่าง เช่น จากรายได้ในเรื่องของการเช่าที่โฮมเพจของห้างร้าน รายได้จากค่าโฆษณา เพราะเมื่อมีผู้ใช้บริการฟรีจำนวนมาก รายได้เสริมในลักษณะนี้ก็จะเกิดขึ้น
การให้บริการฟรีภายในประเทศเป็นนโยบายที่น่าจะทำได้ เพราะเท่ากับสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องผู้ใช้ เพราะผู้ใช้จะขยายวงกว้างขึ้น ธุรกิจภายในประเทศจะก้าวหน้าขึ้น อีกทั้งการไม่ใช้วงจรต่างประเทศเท่ากับเป็นการลดกระแสของอารยธรรมต่างประเทศไปได้ทางหนึ่งการให้บริการข่าวสารสาธารณะ
เพื่อสนับสนุนการให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี รัฐต้องจัดให้หน่วยงานของรัฐเร่งรณรงค์สร้างข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และให้บริการสาธารณะ ข้อมูลข่าวสารที่เรียกดูได้บนอินเทอร์เน็ตจึงเป็นเป้าหมายที่น่ากระทำยิ่ง
การเรียนรู้ในสมัยปัจจุบันต้องอาศัยข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก ถ้ารัฐให้หน่วยงานต่าง ๆ สร้าง เช่น ระบบสาธารณสุข การดูแลรักษาสุขภาพ การป้องกันโรค ข่าวสารเหล่านี้มีวิธีการเข้าถึงได้ง่าย ย่อมตกอยู่กับพี่น้องชาวไทยที่จะบริโภคข่าวสาร
การรณรงค์ในเรื่องการสร้างข้อมูลสาธารณะจึงทำให้ขยายการใช้งานได้กว้าง และไม่ต้องพึ่งพิงข้อมูลจากต่างประเทศอย่างเดียว ข้อมูลที่จัดทำเพื่อคนไทยย่อมมีประโยชน์โดยตรงกับคนไทยอย่างมากนโยบายการดูแลและรักษาความปลอดภัย
ระบบอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนเป็นถนนหลวงเป็นของสาธารณะ ดังนั้นเพื่อสังคมที่ดีงาม เพื่อการอยู่ร่วมกันและใช้ประโยชน์ร่วมกันในสังคมที่ดี จึงต้องมีการสร้างกฎระเบียบ รัฐจะต้องเข้ามาดูแลเอื้ออำนวยให้เกิดระเบียบ มีการจัดระบบให้ชัดเจน มีกฎหมายและข้อบังคับ
ระบบการรักษาความปลอดภัยที่มีตำรวจคอยเอื้อประโยชน์ ในระบบอินเทอร์เน็ตก็ต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบและคอยดูแลในเรื่องการรักษาความปลอดภัย คอยตรวจสอบผู้ทำผิด และมีมาตรการการลงโทษ
ระบบการรักษาความปลอดภัยอาจเกี่ยวข้องโดยตรงกับหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชน รัฐจักต้องให้การสนับสนุนและร่วมมือเพื่อให้การดำเนินธุรกิจบนเครือข่ายมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นงานวางแผน งานวิจัยและพัฒนาเชิงรุก
ระบบการวิจัยอาจเริ่มจากการพัฒนาเพื่อใช้ในประเทศไทย เช่น การใช้ภาษาไทย ระบบสืบค้นข้อมูล ระบบมาตรฐานข้อมูลต่าง ๆ การปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่าย ระบบบัฟเฟอร์ข้อมูล ระบบมัลติมีเดียที่กำลังก้าวหน้า งานค้นคว้าวิจัยเหล่านี้ย่อมก่อให้เกิดการพัฒนาและการปรับใช้ในประเทศไทยเอง
งานทางด้านการวางแผนของประเทศชาติก็มีความจำเป็น รัฐบาลเน้นให้หน่วยงานมี CIO ให้มีแผนหลักขององค์กร แต่แผนหลักของรัฐบาลเองกลับไม่มี หากมีเป้าหมายชัดเจน ผู้ดำเนินการก็สามารถช่วยกันดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายได้ฝากไว้สำหรับอนาคต
การใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยต้องการผู้ชี้นำ ต้องการผู้ดำเนินการเชิงรุก เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เรามีงานที่จะต้องดำเนินการเชิงรุกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการโดเมน หรือชื่อในประเทศไทย การใช้ภาษาไทยกับชื่อโดเมนในระดับ DNS การสร้างมาตรฐานข้อมูล การดำเนินการเรื่องดิจิตอลไลบรารี การสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น โดยเฉพาะระบบสื่อสารโทรคมนาคม การแบ่งผลประโยชน์ที่เป็นธรรมระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการ
อนาคต คือ ความหวังของพวกเราทุกคน






จัดทำโฮมเพจโดย : สำนักบริการคอมพิวเตอร์, 31 มกราคม 2544

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น